วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ใบความรู้ที่ 3 วิชาการสนทนาภาษาอังกฤษ 2

หลักการใช้ Present Simple Tense


1. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือเกิดขณะที่พูดเช่น

Ann watches television.

Ron takes a bath in the bathroom.

2. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เป็นจริงตามธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นอดีต ปัจจุบัน

หรืออนาคตเช่น

Tiger is a dangerous animal.

The earth moves around the sun.

3. ใชักับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นบ่อยๆซ้ำๆจนเป็นกิจวัตรประจำวันหรือประจำเดือน


--------------------------------------------------------------------------------

ทำไมคำกริยาต้องเติม " s " หรือ " es "

Read aloud.

1. I drink water every day.

2. You drink water every day.

3. We drink water every day.

4. They drink water every day.

5. He drinks water every day.

6. She drinks water every day.

7. It drinks water every day.

นักเรียนจะสังเกตเห็นว่าในข้อ 5 - 6 - 7 คำกริยา drink เติม s นักเรียนลองเดาซิคะว่าเพราะอะไรบางคนก็ตอบถูกค่ะว่าเพราะประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 คือ He She และ It ค่ะ นักเรียนต้องจำให้ได้นะคะ

กฎการเติม s หรือ es หลังคำกริยา

1. คำกริยาธรรมดาทั่วๆไปเติม S ได้ทันที เช่นคำว่า work - works , live - lives

2. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย s , ss , sh , ch , x และ o ให้เติม es เช่น go - goes ,

watch - watches , catch - catches

3. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็น I แล้วเติม es เช่น cry - cries ,

study - studies

--------------------------------------------------------------------------------


Present Simple Tense ในรูปประโยคบอกเล่า

ประโยคบอกเล่า หมายถึงประโยคที่พูดหรือเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง เช่น ฉันดื่มน้ำทุกๆวัน ในภาษาอังกฤษรูปกริยาที่ใช้ต้องเป็นช่องที่ 1 ( V .1 ) ถ้าประธานเป็นเอกพจน์กริยาต้องเติม s หรือ es ส่วนประธานพหูพจน์ ( รวมทั้ง I และ You ) กริยาไม่ต้องเติมให้คงรูปเดิม

โครงสร้างประโยค Present Simple Tense



ประธาน + กริยา + กรรม + คำบอกเวลา

--------------------------------------------------------------------------------

Present Simple Tense ในรูปประโยคปฏิเสธ

ถ้าในประโยคบอกเล่านั้นมีเพียงกริยาแท้ เมื่อต้องการเปลี่ยนให้เป็นปฏิเสธให้นำ Verb to do ( do not , does not ) วางไว้หลังประธานมีรูปแบบดังนี้

ประธาน + do not / does not + กริยาช่อง 1 + กรรม

do not ( don't ) ใช้กับประธานพหูพจน์ได้แก่ I , You , We , They

does not ( doesn't ) ใช้กับประธานเอกพจน์ได้แก่ He , She , It

เช่น ประโยคบอกเล่า I live in London.

ประโยคปฎิเสธ I don' t live in London.

ประโยคบอกเล่า He lives in Canada.

ประโยคปฎิเสธ He doesn' t live in Canada.

ข้อสังเกต 1. เมื่อใช้ does not ( doesn ' t ) กับประธานเอกพจน์ คำกริยาที่เติม s หรือ es ให้ตัด s หรือ es ทิ้งและคงเหลือคำกริยาช่องที่ 1 ซึ่งไม่ต้องเติมอะไรทั้งสิ้น

2. ส่วน do not ( don 't )ใช้กับประธานพหูพจน์คำกริยาให้คงเดิมไม่ต้องเปลี่ยนแปลงใดๆ


--------------------------------------------------------------------------------

Present Simple Tense ในรูปประโยคคำถาม

ประโยค Present Simple Tense ที่มี Verb to be เมื่อทำเป็นคำถามให้นำ Verb to be มาวางไว้หน้าประธาน แต่ถ้าประโยคนั้นๆไม่มี Verb to be ให้ใช้ Verb to do ( do , does ) วางไว้หน้าประธาน

มีรูปแบบดังนี้

  Do / Does  + ประธาน + กริยาแท้ช่องที่ 1 + ?


เช่น ประโยคบอกเล่า : They live in London.

ประโยคคำถาม : Do they live in London ?

ประโยคบอกเล่า : He works in an office.

ประโยคคำถาม : Does he work in an office ?

Do ใช้กับประธานพหูพจน์ มี I , You , We , They

Does ใช้กับประธานเอกพจน์ มี He , She , It

ข้อสังเกต

1.การใช้ Verb to do ในประโยคคำถามเมื่อใช้ Does กับประธานเอกพจน์ให้ตัดs หรือ esข้างหลังคำกิยาทิ้งและคงไว้แต่คำกริยาแท้ ( V.1)

2.แต่ถ้าใช้ Do กับประธานพหูพจน์คำกริยาคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

http://www.igetweb.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น